วิธีการฝึกพูดให้โทนเสียงต่ำลงควรทำอย่างไร-ใช้อายแชร์โดว์ให้ถูกวิธี นี่สิถึงจะเรียกว่าเทพแห่งอายแชโดว์ที่แท้จริง

วิธีการฝึกพูดให้โทนเสียงต่ำลงควรทำอย่างไร-ใช้อายแชร์โดว์ให้ถูกวิธี นี่สิถึงจะเรียกว่าเทพแห่งอายแชโดว์ที่แท้จริง

1:รีวิวหนังสือ อย่าเป็นคนเก่ง ที่คุยไม่เป็น 🥹

วิธีการฝึกพูดให้โทนเสียงต่ำลงควรทำอย่างไร_

สวัสดีค่ะเชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนโดยเฉพาะคนที่เป็นIntrovertคงเคยมีปัญหาเรื่องการชวนคุยหรือการทำบทสนทนาให้ลื่นไหลไม่น้อยเลยเราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น..🥲

.

วันนี้เลยหยิบอีกหนึ่งหนังสือที่มีทริคการชวนคุยเล่นมาแบ่งปันกันค่ะการคุยเล่นอาจจะดูเป็นเรื่องเล็กๆแต่จริงๆแล้วมีผลต่อชีวิตเราในหลายด้านเลยนะคะ🥰

.

เรามาเรียนรู้ทริคเล็กๆน้อยๆกันค่ะ

.

1.อย่าใช้เสียงทุ้มต่ำลองท่องโดเรมีฟาซอลแล้วใช้เสียงโทน“ฟา”กับ“ซอล”ในการคุยเล่นจะดูเป็นมิตรเข้าถึงง่ายและเป็นกันเองในสายตาคู่สนทนามากกว่า

.

2.อย่าคุยเล่นไปเรื่อยให้ถามแบบมีการวางแผน

.

น่าจะมีคนบางประเภทที่พอคุยเล่นแล้วจะถามจากคำตอบของอีกฝ่ายไปเรื่อยๆเหมือนพยายามด้นบทสนทนาขึ้นมาโดยไม่รู้ว่าปลายทางอยู่ไหน

.

อย่างสมมุตว่าเราอยากรู้เรื่องทัศนคติและหรือสถานการณ์ของคู่สนทนาเราอาจจะมีวิธีการจบปลายคำถามที่ดีกว่าการถามด้นไปเรื่อยๆ

.

3.ทำให้คู่สนทนารู้สึกภูมิใจด้วยการถามว่า“คุณได้ทำอะไรเป็นพิเศษไหมคะ”

.

อย่างเช่นถ้าลูกค้าที่ผิวดีหุ่นฟิตเดินเข้ามาเราอาจจะชมแล้วถามต่อว่าคุณได้ทำอะไรเป็นพิเศษบ้างไหมคะ(ไม่มีใครรู้สึกไม่ดีใจที่ถูกถามแบบนี้แน่นอน)แม้กระทั่งทักเรื่องกลิ่นน้ำหอมทรงผมเครื่องประดับหรืออะไรก็ตามที่คู่สนทนาดูจะใส่ใจกับมันเป็นพิเศษ

.

4.ฝึกเล่าเกินจริง

เทคนิคนี้แนะนำให้ใช้กับการเล่าเรื่องเพื่อเพิ่มอรรถรสอาจจะมีการเปรียบเปรยเช่นฝนตกเหมือนฟ้าจะถล่มหรือเผ็ดเหมือนยกพริกมาทั้งสวนรวมถึงอาจจะใช้น้ำเสียงร่วมด้วย

.

ซึ่งก็อย่างที่เรารู้กันดีว่ามันเป็นเทคนิคที่คนเล่าเรื่องสนุกมักใช้กัน

.

5.เวลาความเห็นขัดแย้งลองหัดพูดว่า“ผมไม่ทันได้คิดให้รอบคอบเอง”

.

จำได้เสมอว่าทุกๆเรื่องเมื่อไปปะทะกับคนแต่ละคนจะมีทัศนคติและวิธีการรับมือต่างกันแต่เมื่อเกิดความเห็นที่ต่างเราจะต้องยอมรับก่อนว่าเราไม่ได้ถูกเสมอไป(ถึงแม้สุดท้ายเราจะถูกก็ตาม)การพูดว่า“ผมไม่ทันได้คิดให้รอบคอบเอง”จึงเหมือนเป็นการประนีประนอมในการสนทนา

.

6.เวลาชมให้“พึมพำชม”

.

ในช่วงเวลาการสนทนาเราจำเป็นต้องมองคู่สนทนาด้วยความอ่อนโยนและพยักหน้ารับเป็นช่วงๆก็จริง

.

แต่มีช่วงเวลาหนึ่งที่ถ้าหากว่าอยากให้เป็นธรรมชาติต้องพึมพำเหมือนพูดกับตัวเองนั่นคือเวลาชม

.

เช่นหากคู่สนทนาพูดถึงเรื่องบางอย่างที่คุณไม่เคยคิดคุณอาจพูดออกมาว่าโอโหสุดยอดเลยแต่ตาคุณไม่จำเป็นต้องมองที่เขาให้มองลอยๆในอากาศหรือเพดานแทน

.

นอกจากนี้ยังมีเทคนิคอื่นๆเช่น

-ถ้าเราอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมลองพูดทวนประโยคนั้นๆ

-อย่าตอบรับประโยคด้วยคำว่านั่นสินะให้ตอบเป็นเชิงความเห็นแทน

-ไม่ต้องซื้อของฝากราคาแพงพยายามซื้อเป็นของกินจะดีกว่าของใช้

-ถ้าคนๆนั้นสำคัญในการทำงานเราก็ควรจดโน๊ตเกี่ยวกับตัวบุคคลนั้นไว้เผื่อไปเจอในการสนทนาครั้งหน้าจะได้คุยกันได้ลื่นไหล

.

2:แต่งหน้าโทนลาเวนเดอร์

วิธีการฝึกพูดให้โทนเสียงต่ำลงควรทำอย่างไร_

เจ้าน้องเซ็ตนี้น่ารักมากคือการCollabกันระหว่างแบรนด์เมคอัพเกาหลีที่เราชอบ

3:Tips! Trending content💥 นำเทรนด์ก่อนใคร ทำยังไงได้บ้าง

สวัสดีค่ะวันนี้เมย์จะมาแชร์ไอเดียกรุบๆสำหรับชาวContentcreatorอย่างพวกเราโดยเฉพาะ💗📝

💚เมย์จะเน้นไปที่โซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชันที่ผู้อ่านของเมย์ชอบใช้เช่นSpotify,TwitterหรือInstagramนะคะ

💚หลังจากที่เรารู้จักคนอ่านของเราแล้วก็ต้องดูต่อว่าผู้อ่านของเมย์ชอบติดตามใครและศึกษาจากคนๆนั้นอีกทีค่ะ

💚หนังสือของCarlinจะถูกทำขึ้นในทุกๆ6เดือนโดยรวบรวมการคาดการณ์จากวิธีPeople-focusedมีพวกวิวัฒนาการของสิ่งต่างๆรอบตัวConsumerถึงจะหนักไปหน่อยแต่อ่านเพลินมากมีประโยชน์ด้วย!(เมย์หาอ่านที่TCDCเจริญกรุงนะคะ)

NOTE!อย่าลืมหาข้อมูลยืนยันความน่าเชื่อถือของข่าวสารนั้นๆด้วยนะคะ

💞แล้วเพื่อนๆล่ะคะหาแหล่งการทำคอนเทนต์จากไหนกันบ้างแกล้งๆเม้นแชร์ให้เมย์ฟังบ้างนะคะ😆

4:"3 ทริค เรียนภาษายังไง ให้พูดได้" ฉบับคนขี้อายที่เริ่มจาก 0

안녕하세요여러분!สวัสดีค่าทุกคน

วันนี้แบมจะพาทุกคนมาต่อยอดจากโพสนี้–>5ทริคเก่งภาษาขึ้นภายใน2เดือนซึ่งหลักๆจะเป็นการเขียนแล้วก็อ่านเนอะ

วิธีการทำบัตรคำศัพท์–>มาทำFlashCardsกันเถอะ

วิธีจดโน๊ต–>6ทริคจดโน๊ตให้ได้A

รอบนี้ก็คือแบมเอาใจคนที่ขี้อายไม่กล้าคุยกับต่างชาติหรือเจ้าของภาษาไม่ว่าจะผ่านทางช่องทางใดก็ตาม

ครั้งนี้เลยจะพามาลองฝึก"ฟัง-พูด"กันค่าเป็นทักษะพื้นฐานเลยนะถ้าเราฟัง-พูดคล่องๆเนี่ยเขียนอ่านจะไม่ยากเลยมันจะปลดล็อกสกิลไปเอง

Let&

5:วิธีการพูด/นำเสนอ

วิธีการฝึกพูดให้โทนเสียงต่ำลงควรทำอย่างไร_

Tips🎩สำหรับการพรีเซนต์/การพูด📣

[เกริ่นนำ]🎶

บทความนี้เกี่ยวกับวิธีการเตรียมตัวก่อนนำเสนอเเละศิลปะการพูดที่มักจะได้ใช้ในช่วงชีวิตวัยเรียนจนไปถึงวัยทำงาน

ซึ่งตัวผมก็เคยเป็น1คนที่พรีเซนต์ไม่เก่งจนกระทั่ง

รู้จักเคล็ดไม่ลับเคล็ดนี้

โดยจะมีการใช้ภาษาพูดค่อนข้างเยอะเพื่อเเสดงถึงความเรียบง่ายเเละเป็นกันเองเเก่พูดอ่าน

🌈เนื้อหาที่อยู่ในบทความเกิดจากประสบการณ์ของผู้เขียนเเละสิ่งที่ได้เรียนหรือได้อ่านมาจากผู้มีประสบการณ์

เเละบทความจุดประสงค์เพื่อให้ผู้อ่านที่อาจจะประหม่าเวลาที่ต้องออกไปพรีเซนต์หน้าได้มีความมั่นใจเเละความสามารถที่มากขึ้น🎩

1.รู้จักผู้ฟัง🎬

-ตัวเราเองนะครับควรไตร่ตรองเเละคิดมาเสมอว่าคนที่กำลังฟังเราพรีเซนต์อยู่เขาเป็นคนเเบบไหนมีทัศนคติต่อเรื่องที่เรากำลังจะพูดยังไง

มีความรู้ในสิ่งที่เราเตรียมตัวมามากเเค่ไหนเเละเราควรจะใช้วลีหรือคำต่างๆเเบบไหน

เพื่อที่จะสะกดให้เขาสนใจเชื่อถือในสิ่งที่เรากำลังจะพูด

ในการพรีเซนต์รอบนั้นๆ

2.ทำการบ้านก่อนพูด📚

-เราจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจนะครับในสิ่งที่เรากำลังจะพูดเพราะการไปพูดโดยที่ไม่มีความรู้เพียงพอก็จะทำให้สร้างนิสัย

กลัวการนำเสนอไปเปล่าๆ

ก่อนที่เราจะพรีเซนต์นะครับเราต้องมั่นใจเเละวัดความสำเร็จได้ในระดับที่ว่า

เรารู้เรื่องนั้นๆในระดับที่สามารถเล่าให้คนอื่นฟังได้โดยไม่จำเป็นต้องมีโพยเเละสามารถตอบคำถามได้ทันทีในกรณีที่มีการยิงคำถาม

3.การใฝ่รู้📰

-ในหลายๆรอบนะครับการพรีเซนต์ก็อาจจะเกิดการยิงคำถามเเปลกๆเเบบที่เราคาดไม่ถึงได้เพราะฉนั้นตัวเราที่นำเสนอนั้น

ควรจะหาข้อมูลไว้รอบด้านเสมอเช่นCasestudy[กรณีศึกษา]หรือวลีเท่ๆเกร๋ๆเอาไว้อวดเพื่อนอวดครูเวลาพรีเซนต์

เพื่อเพิ่มความคูลเเละความน่าสนใจของตัวงานเรา

4.เรียบเรียงข้อมูล✍🏻

ในการนำเสนอนะครับผู้ฟังอาจจะเกิดความเบื่อหน่ายขี้เกียจฟังเราได้เป็นครั้งคราวโดยเจ้าตัววิธีการจัดข้อมูลให้เป็นระเบียบจะลดโอกาศการพลาด

ของการพรีเซนต์ของเราเเล้วมันยังช่วยกระชับเวลาไม่ให้ผู้ฟังเหนื่อยที่ต้องฟังเราซะก่อนได้อีกด้วย

นอกจากนี้ผู้นำเสนอควรเลี่ยงข้อมูลทางสถิตินะครับเพราะว่ายากต่อการเข้าใจเเละจะทำให้ผู้ฟังเหนื่อยอีกด้วยหรือถ้าไม่ได้จริงๆก็พยายามเรียบเรียงให้เกิดความน่าสนใจ

เช่นวลีเท่ๆอย่างที่กล่าวไปในข้อ3

5.เขียนสิ่งที่จะพูดลงไปในกระดาษ📝

การลดความประหม่าที่ดีที่สุดคือการเตรียมตัวอย่างรอบคอบ

ก่อนพรีเซนต์ในทุกๆรอบตัวเราเองควรหมั่นจดคำต่างๆลงในกระดาษเพื่อสรุปเนื้อหาของเรา

เเละเป็นการทบทวนความจำไปในตัวด้วยซึ่งทริคนี้เป็นทริคที่ผมใช้บ่อยที่สุดเพราะทำให้ไม่ค่อยกระโตกกระตากเกินเหตุคครับ

เเต่ถ้ายังไม่หน่ำใจมากพอก็อ่านมันซะหน้ากระจกไปเลยแรกๆอาจจะเขินอายอยู่บ้างว่าอยู่ๆก็พูดคนเดียวหน้ากระจกเเต่ไม่ต้องห่วงครับมันดีกว่า

อายตอนพรีเซนต์เยอะถึงเเม้จะดู[จูนิเบียว]ไปบ้างก็ตาม

6.ปรับปรุงเเก้ไขในทุกครั้งๆให้ดีขึ้น🦾

เคยมีท่านเขียนเลืองชื่อผู้นึงกล่าวไวว่า

“งานที่ดี10%มาจากเเรงบันดาลใจอีก90%มาจากการเเก้ไข”

บ่อยครั้งนะครับบางทีในขณะที่เรากำลังซ้อมเราก็พบว่าเราสามารถปรับเเต่งเเต่ละจุดให้ดีขึ้นได้เพราะฉนั้นอย่าลังเลครับ

เเก้มันทุกๆรอบจนกว่างานคุณจะดีไปกว่านี้ไม่ได้

สิ่งนี้สามารถปรับใช้ในการพรีเซนต์เช่นตัดคำฟุ่มเฟือยเติมคำเชื่อมฝึกคำควบกล้ำ

เเละอย่าลืมทดสอบก่อนนำเสนอทุกๆครั้งครับ

7.น้ำเสียงนุ่มลึก🌈

นอกจากข้อมูลจะเป็นสิ่งสำคัญในการพรีเซนต์เเล้วน้ำเสียงก็เป็น1ในสิ่งที่กรรมการหรือผู้ฟังใช้ตัดสินงานของเรา

เพราะน้ำเสียงนะครับจะเเสดงถึงสถานะทางอารมณ์ของผู้พูดถ้าผู้พูดน้ำเสียงไม่เป็นธรรมชาติอาจจะทำให้ขัดหูขัดตากรรมการได้

น้ำเสียงที่ดีต้องมีคำหนักคำเบา,ชัดถัอยชัดคำ,เเละมีความมั่นใจรวมถึงอารมณ์ที่เเสดงออกผ่านน้ำเสียงของเจ้าตัว

8.ความตั้งใจ🔥🔥

ไม่ว่าจะในเรื่องอะไรนะครับผู้ทำต้องมีความมั่นใจเด็ดเดี่ยวไม่วอกเเวกถ้าสมมุติเรามีความรู้สึกอยากจะทำอะไรบางอย่าง

เเต่วินัยการเตรียมตัวเเละเเพสชั่นไม่มากพอก็อาจจะล้มเหลวได้ง่ายๆเพราะฉนั้นอย่าลืมมีความมั่นใจที่เเน่วเเน่

กายพร้อมใจพร้อมความพยายามไม่ทำร้ายคนตั้งใจจริงครับ

✌🏻✌🏻✌🏻✌🏻

6:ใช้อายแชร์โดว์ให้ถูกวิธี นี่สิถึงจะเรียกว่าเทพแห่งอายแชโดว์ที่แท้จริง

✨ใช้อายแชร์โดว์ให้ถูกวิธีและเหมาะกับทุกคนมาดูกันคะสาวๆ💕

💕พิกัดอายแชร์โดว์>>พาเลทตาสีฮิตของ3ceเป็นโทนสีน้ำตาลชมพูเบจสีสวยละมุนมากโทนนี้แต่ง่ายใช้เป็นeverydaylookได้เลย<<คลิกตรงนี้นะคะ

⭐️รายละเอียดต่างๆก็ได้เขียนเอาไว้ตามในรูปภาพหมดเลย

⭐️ตอนแรกอาจจะดูยุ่งยากหน่อยแต่แน่นอนว่าถ้าฝึกไปทุกวันจะกลายเป็นอะไรที่ง่ายดายแน่นอนค่ะ

⭐️ทุกคนลองมาดูตามรูปภาพกันเลย!

✨หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับทุกคนได้ไม่มากก็น้อยและสามารถทำให้สาวสาวมีดวงตาที่สวยกันนะคะ^^

expertsindustryassociation

Comments are closed.

Comments are closed.
-->